บทที่ 4 การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ

สาระสำคัญ

คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากมีราคาไม่แพงจนเกินไปนัก ประกอบกับสามารถนำไปใช้ได้กับงานหลากหลายชนิด ธุรกิจในปัจจุบันจึงได้นำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการดำเนินงานและถือว่าคอมพิวเตอร์มีความสำคัญต่อการปฏิบัติงานในองค์กรทำให้องค์กรสามารถบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดได้ ธุรกิจแต่ละประเภทนำคอมพิวเตอร์ไปใช้งานในรูปแบบแตกต่างกัน แล้วแต่วัตถุประสงค์ของการนำไปใช้งาน แต่จะมีวัตถุประสงค์หนึ่งที่เหมือนกันคือ ต้องการให้งานนั้นสำเร็จลุล่วงอย่างรวดเร็ว และถูกต้องแม่นยำ อีกทั้งต้องการลดภาระงานของพนักงาน เพื่อให้พนักงานไปทำงานอย่างอื่นให้องค์กรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
จุดประสงค์การสอน/การเรียนรู้
·      จุดประสงค์ทั่วไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง    
1.             เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับ การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ  (ด้านความรู้) 
2.             เพื่อให้มีทักษะในการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ  (ด้านทักษะ)
3.            เพื่อให้มีเจตคติที่ดีต่อการเตรียมความพร้อมด้าน วัสดุ  อุปกรณ์  และการปฏิบัติงานอย่างถูกต้อง สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด มีเหตุและผลตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ด้านคุณธรรม จริยธรรม)
·      จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
1.             อธิบายความหมายของระบบธุรกิจได้ (ด้านความรู้) 
2.             ชี้แจงโครงสร้างระบบธุรกิจได้  (ด้านทักษะ)
3.             การเตรียมความพร้อมด้านการเตรียม วัสดุ  อุปกรณ์นักศึกษาจะต้องกระจายงานได้ทั่วถึง  และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน   มีการจัดเตรียมสถานที่  สื่อ  วัสดุ อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง  (ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง)
4.             ความมีเหตุมีผลในการปฏิบัติงาน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง  นักศึกษาจะต้องมีการใช้ เทคนิคที่แปลกใหม่ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอที่น่าสนใจนำวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้   อย่างคุ้มค่าและประหยัด (ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง)

การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ

ความหมายของระบบธุรกิจ
ธุรกิจ (Business)หมายถึง  กระบวนการของกิจการทางเศรษฐกิจที่สัมพันธ์เป็นระบบและอย่างต่อเนื่องในด้านการผลิต  การซื้อขายแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสินค้าและบริการ  โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะได้กำไรหรือผลตอบแทนจากกิจกรรมนั้น

ระบบธุรกิจ (Business System)หมายถึงระบบที่ทำงานเพื่อจุดประสงค์ด้านธุรกิจ โรงงานอุตสาหกรรม เป็นระบบธุรกิจเพื่อจุดประสงค์ด้านการผลิต ระบบขนส่ง ระบบโรงแรม ระบบการพิมพ์ ระบบธนาคาร และอื่นๆ อีกมากมาย ล้วนแล้วแต่เป็นระบบธุรกิจทั้งนั้นแต่ละระบบมีจุดประสงค์แตกต่างกันออกไป ระบบธุรกิจอาจจะแบ่งเป็นย่อยๆ ลงไปได้อีก

โครงสร้างระบบธุรกิจ

โครงสร้างระบบธุรกิจแบ่งเป็น 2 ลักษณะ ดังนี้
1.1         ลักษณะภายนอกของโครงสร้างระบบธุรกิจ แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1.           ส่วนประกอบโดยตรงของระบบธุรกิจ เช่น กลุ่มของธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันพนักงานที่ทำงานในหน่วยงาน เป็นต้น ซึ่งจะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้
2.   ส่วนประกอบโดยอ้อมหรือปัจจัยแวดล้อม ได้แก่ กฎหมาย กฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ลัทธิทางศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณี ทัศนคติ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
1.2         ลักษณะภายในของโครงสร้างระบบธุรกิจ ได้แก่

1.   ธุรกิจที่มีลักษณะแตกต่างกันออกไป
- ความแตกต่างทางด้านผลิตภัณฑ์
- ความแตกต่างทางด้านภูมิศาสตร์ เช่น ภาคใต้อุดมสมบรูณ์ด้วยยางพาราและแร่ดีบุกก็จะมีธุรกิจที่ผลิตยางแผ่น และทำเหมือนแร่ดีบุก ภาคเหนือมีป่าไม้มาก ก็จะมีธุรกิจแปรรูปไม้สำเร็จ เป็นต้น
2. ธุรกิจที่มีลักษณะขึ้นตรงต่อกันและความเชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะอย่าง คือ ลักษณะของธุรกิจที่จะต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เช่น ธุรกิจผลิตผลไม้กระป๋องซึ่งจำเป็นต้องอาศัยวัตถุดิบจากชาวนาชาวไร่ที่ผลิตผลไม้สด และต้องอาศัยธุรกิจที่ผลิตภาชนะสำหรับบรรจุผลไม้ลงไป ซึ่งแต่ละส่วนนั้นมีความชำนาญพิเศษเฉพาะอย่างไม่เหมือนกัน เป็นต้น
3. ธุรกิจที่มีลักษณะไม่หยุดนิ่ง เป็นสิ่งที่ธุรกิจจะต้องคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในภายนอกของวงการธุรกิจ เช่น เทคโนโลยีที่ทันสมัย กฎหมาย เป็นต้น

การใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ


แนวคิดการใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ
การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ การใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ
1. การใช้คอมพิวเตอร์ในวงการอุตสาหกรรม
ในวงการอุตสาหกรรมนับได้ว่าคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก ตั้งแต่การวางแผนการผลิต กำหนดเวลาการผลิต จนกระทั่งถึงการผลิตสินค้า ควบคุมระบบ การผลิตทั้งหมด
ในรายงานทางอุตสาหกรรมได้มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการควบคุมการ ทำงานของเครื่องจักร เช่น การเจาะ ตัด ไส กลึง เป็นต้น ตลอดจนโรงงานผลิตรถยนต์ ก็จะใช้หุ่นยนต์คอมพิวเตอร์ในการทาสี พ่นสี รวมถึงการประกอบรถยนต์ เป็นต้น
2. การใช้คอมพิวเตอร์ในธุรกิจธนาคาร
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทในการบริหาร และการให้บริการในด้านธุรกิจธนาคาร ทำให้ธุรกิจธนาคารเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งจุดหลักของธนาคารคือ การให้บริการแก่ลูกค้าที่มาติดต่อด้วยความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง จึงมีการนำระบบ On-Line เข้ามาใช้กันอย่างกว้างขวาง
ในแวดวงธนาคารนับได้ว่าคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทมากที่สุด เพราะธนาคารจะมีการนำข้อมูล (Transaction) เป็นประจำทุกวัน การหาอัตราดอกเบี้ยต่างๆ นอกจากนี้การใช้บริการ ATM ซึ่งลูกค้าสามารถฝากถอนเงินได้จากเครื่องอัตโนมัติ ซึ่งทำให้สะดวกแก่ผู้ใช้บริการเป็นอย่างยิ่ง และเป็นที่นิยมแพร่หลายในปัจจุบัน      
Online Banking  คือ การรับฝาก - ถอนเงิน รวมทั้งการบันทึกรายการบัญชีทันที โดยอาศัยคู่สายโทรศัพท์เป็นสื่อกลางการติดต่อระหว่าง Terminal ที่สำนักงานสาขากับศูนย์คอมพิวเตอร์ที่สำนักงานใหญ่ ขบวนการดังกล่าวอาจเรียกว่า Update tele – Processing ก็ได้ นั่นคือ สำนักงานสาขามีหน้าที่ป้อนข้อมูลทาง Terminal ส่งข้อมูลมายังศูนย์คอมพิวเตอร์ สำนักงานใหญ่ เพื่อบันทึกรายละเอียดต่าง ๆ ลงบัญชี การคำนวณผลประโยชน์ (ดอกเบี้ย) จะกระทำที่ศูนย์คอมพิวเตอร์เท่านั้น
ทางสำนักงานสาขาไม่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลไว้ และคอมพิวเตอร์ที่สำนักงานใหญ่ยังสามารถออกรายงานให้ทุกสาขาได้ทุกลักษณะ พนักงานสำนักงานสาขาเพียงแต่รับสมุดและสลิปจากลูกค้า ป้อนข้อมูลทาง Terminal ส่งข้อมูลไปประมวลผลที่สำนักงานใหญ่ โดยคอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลที่เข้ามาว่าถูกต้องหรือไม่ หากผิดพลาดจะแจ้งออกมาให้ทราบซึ่งอาจจะระงับการถอนเงิน หรือยกเลิกรายการนั้นบางรายการ จากนั้นคอมพิวเตอร์จะปฏิบัติตามรหัสที่ป้อนเข้าไปว่าเป็นการให้ถอนเงินหรือฝากเงิน และจะปรับยอดรายการบัญชีนั้น โดยจะบันทึกไว้ใน Magnetic device ข้อมูลที่ประมวลผลแล้วจะถูกส่งกลับมาตามสายโทรศัพท์อีกเพื่อพิมพ์ลงบนสมุดคู่ฝากของลูกค้า

 การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ

 ความสามารถและโยชน์ในการนำคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ
การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ การประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในงานธุรกิจ
ความสำคัญและความสามารถในงานด้านต่าง ๆ ที่นำคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในงานธุกิจ มีดังนี้
I. การนำคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในงานด้านการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น
- การรับสมัครนักศึกษาเข้าเรียน
- การชำระค่าลงทะเบียนเรียนผ่านทางธนาคาร เป็นต้น
II. การนำคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในงานทางด้านการธนาคารที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น
- การให้บริการกับลูกค้า
- การฝากเงิน และการถอนเงิน
- การชำระค่าบริการต่าง ๆ เป็นต้น
III. การนำคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในงานด้านโรงแรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น
- การบันทึกข้อมูลการเข้าพัก และการแจ้งคืนห้องพักของลูกค้า
- การชำระค่าห้องพัก เป็นต้น
IV. การนำคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในงานด้านธุรกิจสายการบินที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น
- การตรวจดูตารางการบิน
- การจองตั๋วเครื่องบิน
- การยกเลิกเที่ยวบิน
- การสำรองที่นั่งล่วงหน้า เป็นต้น
V. การนำคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในงานด้านการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น
- การค้นหาประวัติของคนไข้
- การวินิจฉัยโรค
- การเอ็กซเรย์
- การชำระเงินค่ารักษา เป็นต้น
VI. การนำคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในงานด้านอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น
- การเพิ่มผลผลิตสินค้าให้มีปริมาณมากขึ้น และเพียงพอกับความต้องการของตลาด


- ตรวจสอบคุณภาพของสินค้า
- การออกแบบการบรรจุหีบห่อให้สวยงาม เป็นต้น
VII. การนำคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในงานด้านบันเทิงที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น
- การนำภาพยนตร์ออกมาฉาย
- การออกแบบและตัดต่อภาพ
- การควบคุมคุณภาพของเสียง
- การออกแบบท่าทางเต้น
- การโฆษณา เป็นต้น
VIII. การนำคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในงานด้านการสื่อสาร เช่น
- การนำอินเตอร์เน็ตเข้ามามีส่วนร่วมในงาน เป็นต้น
IX. การนำคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในงานด้านตลาดหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น
- การซื้อ-ขายหุ้น เป็นต้น
X. การนำคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ในงานด้านสื่อสิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น
- การหาข้อมูลข่าวสาร
- การออกแบบรูปเล่ม
- การตัดต่อข้อมูล
- การส่งไปตีพิมพ์ เป็นต้น

ประโยชน์ในการนำเอาคอมพิวเตอร์เข้ามาประยุกต์ใช้ในงานด้านธุรกิจ มีดังนี้
I. ประโยชน์ในเรื่องของการเก็บบันทึกข้อมูล เช่น
- ใช้ในการเก็บบันทึกเกี่ยวกับประวัติของพนักงานว่า ชื่อสกุลอะไร อายุเท่าไหร่ จบการศึกษามาจากที่ไหน เคยทำงานมาแล้วหรือไม่ เป็นต้น ซึ่งทำให้ประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ และสะดวกในการใช้ระยะเวลาในการค้นหามากกว่าที่จะใช้กระดาษในการเขียนบันทึกข้อมูล
- ใช้ในบันทึกเกี่วยกับข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าว่าเป็นประเภทอะไร ชื่อสินค้าอะไร สีอะไร มีลักษณะรูปแบบเป็นอย่างไร ผลิตเมื่อไหร่ และมีวันหมดอายุวันไหน เป็นต้น
II. ประโยชน์ในเรื่องของการให้บริการลูกค้า คือสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และต่อเนื่องซึ่งสามารถให้บริการลูกค้าที่มาขอใช้บริการได้อย่างทันทีที่ลูกค้ามาเข้ารับการบริการ เช่น
- ใช้ในด้านงานธนาคาร เช่น การฝากถอนเงินในธนาคาร เป็นต้น
- ใช้ในด้านการศึกษา เช่น การลงทะเบียนเรียน การบันทึกผลการเรียน และการประการผลการเรียน เป็นต้น
III. ประโยชน์ในเรื่องของงานวิจัย เช่น
- ใช้ในการคำนวณ คือ ใช้หาค่าของตัวเลขที่มีความสลับซับซ้อน เช่น การหาค่าของสมการ การถอดราก และยกกำลังของตัวเลข เป็นต้น ซึ่งสามารถคำนวณได้อย่างแม่นยำ และมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
- ใช้ในการประมวลผลข้อมูลในการทดลอง และทำการสรุปผลของการวิจัย เป็นต้น
IV. ประโยชน์ในเรื่องของการเก็บรักษาสินค้า เช่น
- ทำให้สามารถควบคุมอุหภูมิของสินค้าภายในโกดังได้ ว่าสินค้าประเภทไหนต้องการอุหภูมิประมาณกี่องศา ชอบอากาศแบบไหน เป็นต้น จึงมีส่วนช่วยในการเก็บรักษาสินค้าได้เป็นเวลานาน และทำให้เกิดการเสียหายของสินค้าลดน้อยลงอีกด้วย
V. ประโยชน์ในเรื่องของการตรวจสอบคุณภาพของสินค้า เช่น
- เมื่อป้อนข้อมูลสินค้าลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ก็สามารถทราบได้ทันทีเลยว่าข้อมูลของสินค้ายังมีสภาพดีอยู่หรือไม่ และทำให้สามารถทราบวันผลิต และวันหมดอายุได้อีกด้วย
VI. ประโยชน์ในเรื่องของการคำนวณเงินเดือนและค่าแรงงานของพนักงาน เช่น
- ในการคำนวณเงินเดือนและค่าแรงของพนักงาน ได้มีการนำโปรแกรมสำเร็จรูปขึ้นมาใช้เฉพาะในการคำนวณเงินเดือนและค่าแรงของพนักงาน ทำให้มีความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
VII. ประโยชน์ในเรื่องของการทำบัญชี คือ สามารถนำโปรแกรมสำเร็จรูปทางบัญชีเข้ามาช่วยในเรื่องต่าง ๆ เช่น
- ในเรื่องของการลงบันทึกรายการทางด้านบัญชี
- ในเรื่องของการลงสต็อกสินค้า
- ในเรื่องของการจัดทำงบการเงินไม่ว่าจะเป็นงบทดลอง งบกระแสเงินสด





1 ความคิดเห็น:

  1. Weladee
    ทางเลือกใหม่ของระบบบันทึกเวลาทำงานสำหรับองค์กรที่ทันสมัย
    เวลาดี) คือระบบบันทึกเวลาการทำงานของพนักงาน โดยพนักงานสามารถบันทึกเวลาได้จากโทรศัพท์มือถือ หรือโดยใช้ RFID key tag บันทึกเวลาผ่านอุปกรณ์บันทึกเวลา (gate station)

    ตอบลบ